ทำประกันรถยนต์ไว้ดีอย่างไร?

ประกันรถยนต์
Lifestyle

ทำประกันรถยนต์ไว้ดีอย่างไร?

ขึ้นชื่อว่า “อุบัติเหตุ” ก็ย่อมต้องเป็นเรื่องงราวที่เราไม่คาดคิด เมื่อเราเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บไข้ได้ป่วยกันทีไร จะต้องเลือกสถานที่รักษาและเตรียมค่ารักษาพยาบาลกันอย่าง อิรุงตุงนังกันมากๆ เลยถูกมั้ยหล่ะครับ เพราะการทำสิ่งเหล่านี้มีความจำเป็นต่อสุขภาพและการรักษาของเรามากๆ เลย จะดีกว่ามั้ยถ้าไม่ต้องมาพะวงเกี่ยวกับที่รักษาและค่ารักษาที่อาจจะแพงเอามากๆ อีกทั้งค่าซ่อมรถยนต์หลังจากเกิดอุบัติเหตุต่างๆ ด้วย วันนี้เราจึงอยากมาบอกเกี่ยวกับ “ทำประกันรถยนต์ไว้ดีอย่างไร?” กันครับ

ทำไมถึงต้องทำประกันรถยนต์

การทำประกันรถยนต์ จึงเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการรักษาพยาบาลและการซ่อมรถยนต์ต่างๆ ได้อย่างดีที่สุด เพราะ การทำประกันสุขภาพถือเป็นการจ่ายเงินเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงเกี่ยวกับสุขภาพร่างกายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตของผู้เอาประกันไม่ว่าความเสี่ยงนั้นจะเป็นความเสี่ยง ด้านสุขภาพ การเจ็บป่วยจากอุบัติเหตุต่างๆ

รู้จักกับประกันรถยนต์ประเภทต่างๆ

ประกันรถยนต์ ที่รู้จักกันในชื่อ ประกันชั้น 1, 2, 3, 2+ หรือ 3 จัดเป็นประกัน “ภาคสมัครใจ” ซึ่งจะเป็นการซื้อประกันเพิ่มเติมจากความคุ้มครองที่ได้รับจาก พ.ร.บ. ซึ่งในกรณีที่เราเป็นต้นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน พ.ร.บ. จะช่วยคุ้มครองเท่าที่กฎหมายกำหนด แต่ถ้าความเสียหายมีมาก ผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหาย จะเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายเอง ซึ่งประกันภาคสมัครใจ จะเข้ามาช่วยรับผิดชอบในกรณีเหล่านี้

●ประกันชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด คือ จะรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคลในรถ และบุคคลภายนอก รวมถึงความเสียภายที่เกิดขึ้นต่อรถยนต์ที่เอาประกันภัย รวมถึงกรณีเกิดไฟไหม้และการสูญหายด้วย

●ประกันชั้น 2 จะรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคลในรถ และบุคคลภายนอก รวมถึงความเสียหายที่เกิดกับรถยนต์จากการเกิดไฟไหม้และการสูญหาย

●ประกันชั้น 3 จะรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคลภายนอก และความเสียหายที่เกิดกับรถยนต์จากการเกิดไฟไหม้และการสูญหาย

●ประกันชั้น 2+ จะรับผิดชอบต่อความเสียหายในกรณีเดียวกับประกันชั้น 2 แต่เพิ่มความรับผิดต่อในส่วนของความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย แต่เฉพาะกรณีที่ชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น และจำเป็นต้องมีคู่กรณีด้วย

●ประกันชั้น 3+ จะรับผิดชอบต่อความเสียหายในกรณีเดียวกับประกันชั้น 3 แต่คุ้มครองรถยนต์คันเอาประกันภัยในวงเงินจำกัด และเฉพาะกรณีที่ชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น

ทำประกันรถยนต์ความคุ้มครองอะไรบ้าง?

●ความคุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก (Third Party Bodily Injury: TPBI) ให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของบุคคลภายนอก และความรับผิดต่อการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของผู้โดยสารในรถคันเอาประกันภัย โดยมีจํานวนเงินขั้นต่ำที่บริษัทต้องรับประกันภัยจํานวน 100,000 บาทต่อคน และ 10,000 บาทต่อครั้ง ทั้งนี้จํานวนเงินจํากัดความรับผิดนี้ถือเป็นส่วนเกินจากความคุ้มครองตามกรมธรรม์คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ

●ความคุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก (Third Party Property Damage: TPPD) ให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อความเสียหายใดๆ อันเกิดแก่ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก โดยมีจํานวนเงินขั้นต่ำที่บริษัทต้องรับประกันภัยจํานวน 200,000 บาทต่อครั้ง

●ความคุ้มครองความรับผิดต่อความเสียหายของตัวรถยนต์ (Own Damage: OD) ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างเวลาประกันภัยต่อรถยนต์ รวมถึงอุปกรณ์ เครื่องตกแต่ง และส่วนควบที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์ แต่ไม่รวมความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้ โดยมีจํานวนเงินขั้นต่ำที่บริษัทต้องรับประกันภัยจํานวน 50,000 บาท (รถจักรยานยนต์ 5,000 บาท) ทั้งนี้การรับประกันภัยตัวรถยนต์ไม่ควรรับประกันภัยในจํานวนเงินจํากัดความรับผิดต่ำกว่า 80% ของราคารถยนต์ในวันเริ่มการประกันภัย เว้นแต้รถยนต์ที่ไม่มีการเสียภาษีขาเข้า

●ความคุ้มครองความรับผิดต่อความสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์ (Fire and Theft: F&T) ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของรถยนต์ รวมทั้งอุปกรณ์ เครื่องตกแต่ง และส่วนควบที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์ ที่ถูกไฟไหม้ หรือสูญหายไป

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “ทำประกันรถยนต์ไว้ดีอย่างไร?” ที่ได้นำมาฝากท่านผู้อ่านที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องประกันรถยนต์ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ที่น่าสนใจกันครับ

Back To Top